สิ่งสำคัญหลักๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับร้านค้าที่มีบริการเดลิเวอรี คือ คุณภาพ ความแน่นหนา และดีไซน์ที่สวยงาม และยังมีอีกหลายสิ่งที่สำคัญเช่นกัน วันนี้ 9 Tokai นำทริคดีๆมาฝาก มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย...
1. เลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับเมนูอาหาร
บรรจุภัณฑ์ 1 รูปแบบ ไม่ได้เหมาะกับอาหารทุกเมนู เพราะฉะนั้น การเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับเมนูอาหาร จะช่วยคงหน้าตา รสชาติ และความสดใหม่ของอาหารเอาไว้ได้
บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารจานเดียว เช่น สปาเกตตี้ ผัดมักโรนี ข้าวราดผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว ฯลฯ สามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ได้หลายแบบ แนะนำให้ใช้เป็นกล่องพลาสติกแบบมีฝาปิดมิดชิด และไม่แนะนำให้ใช้กล่องโฟม เพราะอาหารอาจรั่วซึมออกมาขณะขนส่ง นอกจากนั้นถ้าอยากรักษารสชาติของอาหาร ควรแยกข้าวและกับข้าวออกจากกัน เพื่อไม่ให้ข้าวดูดน้ำจากอาหารไปทั้งหมด ไม่ทำให้ข้าวแฉะ และที่สำคัญหากอาหารของเราต้องอุ่นก่อนทาน ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบเข้าไมโครเวฟได้ด้วยนะคะ
บรรจุภัณฑ์สำหรับบิงซู น้ำแข็งใส เราแนะนำให้ใช้เป็นถ้วยกระดาษทรงกระบอกแบบมีฝาปิด ซึ่งอาจต้องสั่งทำเป็นพิเศษ ส่วนท้อปปิ้ง อาจเลือกเป็นแบบบรรจุถุงพลาสติกซีลปาก หรือถาดหลุมพลาสติกและมีฝาปิดใส นอกจากนั้นควรบรรจุอยู่ในถุงเก็บความเย็นอีก 1 ชั้น เพื่อไม่ให้น้ำแข็งละลายระหว่างการขนส่ง
บรรจุภัณฑ์สำหรับสลัด ซูชิ ซาชิมิ เป็นอาหารที่มีน้ำอยู่ในตัว เน้นที่ความชุ่มฉ่ำและสดใหม่ ไม่แนะนำให้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบกระดาษ เพราะกระดาษจะดูดน้ำจากอาหารไปจนหมด และรั่วซึมง่าย แนะนำให้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบพลาสติก ทรงยาว มีฝาปิดใส จะช่วยคงความสดใหม่ และทำให้มองเห็นอาหารที่น่ารับประทานมากขึ้น
บรรจุภัณฑ์สำหรับขนมหวาน เบเกอรี่ เช่น เค้ก ขนมปัง คัพเค้ก ช๊อกโกแลต ขนมอบต่างๆ ควรเน้นบรรจุภัณฑ์ที่ดีไซน์สวยงาม เพื่อเสริมมูลค่าให้สินค้า แต่ต้องระวังหากขนมของเรามีส่วนที่เป็นไส้ด้านใน หรือเค้กที่ตกแต่งหน้าตาสวยงาม ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ค่อนข้างแข็ง อย่างกล่องกระดาษ เพื่อปกป้องขนมจากการถูกกดทับ
2. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้ามือสะอาดอยู่เสมอ
บรรจุภัณฑ์อาหารที่ออกจากร้านไปถึงมือลูกค้า ควรสะอาด ไม่มีคราบมัน เมื่อลูกค้าหยิบจับแล้วมือยังสะอาดอยู่เสมอ ไม่ต้องเปลืองกระดาษทิชชู่ หรือเดินไปล้างมือหลายๆรอบตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทาน ซึ่งเป็นการสร้างความไม่สะดวกให้กับลูกค้า อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าร้านอาหารใส่ใจ รับรองว่าจะได้ผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่กลับมาแน่นอน อย่ามองข้ามเลยนะคะ
3. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่แพ็คง่าย เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
นอกจากคำนึงถึงลูกค้าแล้ว ความสะดวกตอนพนักงานบรรจุอาหารลงกล่องก็สำคัญ ควรเลือกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ต้องประกอบเองหรือดัดแปลงเยอะ เน้นที่แน่นหนา และบรรจุได้ง่าย จะช่วยลดเวลาการทำงานลงได้ และควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่าย ไม่ขาดตลาด ก็จะช่วยควบคุมต้นทุนให้คงที่ และไม่ต้องเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์บ่อยๆ
4. เลือกบรรจุภัณฑ์ โดยคำนึงถึงระยะเวลาและการเดินทางขนส่งอาหาร
ร้านอาหารควรคำนึงถึงเวลาเดินทางของอาหารที่เริ่มต้นตั้งแต่ที่ร้านจนไปถึงมือลูกค้า เช่น หากอาหารของเราสามารถเปิดกล่องทานได้ทันที อาจเลือกเป็นบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือถ้าอาหารต้องอุ่นในไมโครเวฟก่อนทาน ก็ควรเลือกเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้เลย โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์อันใหม่เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทริคดีๆที่นำมาฝาก ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารกับอาหารแต่ละแบบสำหรับบริการเดลิเวอรี่นั้น มีความสำคัญและแตกต่างกันอย่างไร และหากคุณต้องการทราบว่าสินค้าของคุณ ควรใช้บรรจุภัณฑ์อาหารประเภทใด ปรึกษา 9 TOKAI ได้นะคะ ยินดีให้บริการค่ะ